บอกรักให้ใจฟู ด้วยเมนูหวานน้อยเพื่อสุขภาพ ต้อนรับเทศกาลแห่งความรัก

          เข้าสู่เทศกาลแห่งความรัก เป็นเดือนที่เต็มไปด้วย “การให้” ให้ความรัก ให้ความห่วงใย ให้ของขวัญกันและกัน และหนึ่งในของขวัญยอดนิยมที่ผู้คนมักให้กันคือ “ขนมหวาน” ของขวัญแทนใจที่หากันง่าย ๆ ให้ได้ทุกคน แต่รู้หรือไม่พฤติกรรมคนไทยนั้น “ชอบกินของหวาน” นำมาซึ่งน้ำตาลที่เยอะเกินความจำเป็นต่อร่างกาย จากการสำรวจพบว่า “คนไทยกินน้ำตาลเฉลี่ยสูงสุดวันละ 20 ช้อนชา” ส่งผลให้มีผู้ป่วยเบาหวานเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยข้อมูลจากองค์กรอนามัยโลกแนะนำให้กินน้ำตาลในปริมาณที่จำกัด 4-6 ช้อนชา/วัน ในกลุ่มคนวัยทำงานทั่วไป และ 6-8 ช้อนชา/วัน ในกลุ่มคนที่ต้องใช้พลังงานมากกว่าปกติ 

เนสท์เล่จึงอยากชวนทุกมาเติมความหวานให้กันและกัน ด้วยการแสดงความรักแบบสุขภาพดี เลือกเมนูหวานพอดีมีประโยชน์ หรือเมนูหวานน้อย เพื่อเป็นของขวัญให้คนที่คุณรักสุขภาพดีอย่างยั่งยืน

ในบทความนี้เนสท์เล่จะมาแนะนำวิธีการบอกรักให้หวานพอดีมีประโยชน์ อร่อยได้ไม่ทำร้ายสุขภาพต้องทำอย่างไร มาดูกันเลย

4  วิธีบอกรักให้หวานพอดีมีประโยชน์

1. บอกรักแบบ “หวานน้อยแต่หวานนะ” 

          เทศกาลแห่งความรักวนมาอีกครั้ง ขนมหวานถือเป็นของขวัญแทนการบอกรักชั้นดี ดังนั้นจะเซอไพรส์แบบไม่มีของหวานไปได้อย่างไร เปลี่ยนการสั่งซื้อขนมวาเลนไทน์สุดหวาน ให้กลายเป็นขนมหวานพอดีที่อร่อยและได้ประโยชน์แทน หากเป็นเครื่องดื่มให้สั่งแบบหวานน้อย หรือ ลดหวานครึ่งนึง แนะนำเมนูแคนตาลูปเนสวีต้า ช่วยเติมความสดชื่นให้ร่างกายกระปรี้กระเปร่า อุดมไปด้วยโปรตีน ช่วยรองท้องทำให้รู้สึกอิ่ม วิธีทำง่ายเพียง 3 ขั้นตอน

• หั่นแคนตาลูปใส่เครื่องปั่น
• เติมน้ำแข็งและน้ำเปล่า ปั่นให้เนื้อผลไม้เข้ากัน
• ใส่ผงเนสวิต้าน้ำเต้าหู้ลงไปปั่นพอให้เข้ากัน

 อ่านวิธีฉบับเต็มคลิก ส่วนมื้ออาหารเน้นความหวานจากวัตถุดิบโดยไม่ต้องเพิ่มน้ำตาล แนะนำเมนูข้าวผัด เพราะสามารถครีเอตส่วนผสม เติมผักและเนื้อสัตว์ได้หลากหลาย

2. บอกรักแบบ “หวานผ่านเกณฑ์” 

          ใครกำลังมองหาของขวัญหรือกระเช้าแทนความรักความห่วงใย ให้กับครอบครัว ผู้หลักผู้ใหญ่ ญาติพี่น้อง แต่ยังเลือกไม่ถูกว่าอะไรที่ดีต่อสุขภาพสำหรับผู้รับ อีกทั้งการเปรียบเทียบปริมาณน้ำตาล ไขมัน โซเดียมด้วยตัวเองอาจทำให้ยุ่งยาก แนะนำวิธีการเลือกซื้อให้ง่ายขึ้นโดยไม่ต้องเสียเวลาอ่านฉลากโภชนาการ เลือกผลิตภัณฑ์เมนูหวานน้อยที่มีสัญลักษณ์โภชนาการ ‘ทางเลือกสุขภาพ’ (Healthier Choice logo)

มั่นใจได้ว่าดีต่อสุขภาพ และมีรสชาติที่อร่อย เพราะน้ำตาลผ่านเกณฑ์ มีไขมัน และโซเดียมอยู่ในปริมาณที่เหมาะสมตามความต้องการของร่างกาย เพราะหากได้รับมากเกินไปอาจทำให้เสี่ยงต่อการเกิดโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง (NCDs) อย่าง โรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง โรคปอด โรคหัวใจ โรคไต โรคหลอดเลือดสมอง โรคอ้วนลงพุง 

ดังนั้นการเลือกกินอาหารที่ไม่มีรสหวาน มัน เค็มจนเกินไป จะช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง (NCDs) ได้

3. บอกรักแบบ “หวานพอดีสีชมพู”

          ให้วาเลนไทน์นี้หวานกว่าที่เคย อยากบอกรักทั้งที ต้องบอกรักคิ้วท์ ๆ ให้เธอได้รู้ด้วย 3 เมนูหวานน้อยสีชมพูสุดคิ้วท์แบบดีต่อใจ และดีต่อร่างกาย

• นมหมีสีชมพู หอมหวานละมุน พร้อมดื่ม แคลเซียมสูง อร่อยกลมกล่อมแบบสุขภาพดี 
• ไอศกรีมลิ้นจี่ อร่อยสดชื่น โยเกิร์ตเนื้อเนียนนุ่มกับลิ้นจี้หวานอมเปรี้ยวอย่างลงตัว ที่สำคัญแคลอรีน้อย หวานพอดีน้ำตาลไม่เกิน
• สตรอว์เบอร์รี่ วิตามินซีสูง ช่วยในการเสริมสร้างภูมิคุ้มกันของร่างกายให้แข็งแรง เสริมสร้างคอลลาเจน บำรุงผิวพรรณให้สดใส และช่วยบำรุงประสาทและสมอง

4. บอกรักแบบ “หวานดีมีกากใย” 

          เติมความหวานสุขภาพดีมีประโยชน์และกากใย ด้วยผลไม้หวานน้อยน้ำตาลจากธรรมชาติตัวอย่างเช่น  ฝรั่ง ชมพู่ แอปเปิ้ล แคนตาลูป แก้วมังกร เป็นต้น อีกทั้งใยอาหารในผลไม้ยังช่วยให้อิ่มท้อง ชะลอการดูดซึมน้ำตาลได้ดี อุดมด้วยวิตามินและสารต่อต้านอนุมูลอิสระ ช่วยให้ระบบขับถ่ายดีแก้ปัญหาท้องผูก

          นอกจากการบอกรักด้วยการเลือกกินเมนูหวานน้อยแล้ว การออกกำลังกายและการพักผ่อนให้เพียงพอก็สำคัญเช่นกัน อ่านเทคนิคการสร้างสมดุลเพื่อสุขภาพที่แข็งแรง คลิก เพราะความหวานน่ากลัวกว่าที่คิด หากกินหวานไม่มีลิมิตชีวิตอาจมีแต่โรครุมเร้า
หวังว่าทุก ๆ คนจะนำไอเดียการบอกรักให้หวานพอดีมีประโยชน์ ไปปรับใช้ในโอกาสต่าง ๆ ได้อย่างมีความสุข เพื่อให้คนที่คุณรักมีสุขภาพใจที่ดี และร่างกายที่แข็งแรง จนสามารถส่งต่อความรักด้วยการเลือกสิ่งดี ๆ ให้ผู้อื่นได้